ศึกษาศิลปะสไตล์ขอม ที่ปราสาทเมืองสิงห์ แห่งเดียวของเมืองกาญ

จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ ให้เลือกเที่ยวหลายแห่งด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ที่เราอยากแนะนำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวสักครั้ง คือ “ปราสาทเมืองสิงห์” สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจการเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ ชื่นชอบศิลปะยุคโบราณหรือศิลปะที่มีความแปลกตา ที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี ที่ตอบโจทย์มากที่สุด

ความเป็นมาของปราสาทเมืองสิงห์

ปราสาทเมืองสิงห์หรืออุทยานแห่งชาติประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เดิมทีเป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำแควน้อย เนื่องจากที่บริเวณดังกล่าว เป็นจุดที่ธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์มาก จึงทำให้ชาวบ้านมาตั้งรกรากอาศัยอยู่ที่บริเวณนี้ และในเวลาต่อมาก็ได้มีการค้นพบโบราณคดี และโบราณสถานต่าง ๆ ที่แสดงถึงอารยธรรมโบราณ จากการสันนิษฐานพบว่าเมืองสิงห์แห่งนี้ เป็นเมืองที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 18-19 เลยทีเดียว

รูปแบบศิลปกรรมของปราสาทเมืองสิงห์

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวกาญจนบุรี และได้แวะเข้ามาที่ปราสาทเมืองสิงห์ จะเห็นได้ว่ารูปแบบศิลปกรรมของเมืองโบราณแห่งนี้ จะมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรม และศิลปะแบบขอม ที่คล้ายกับในยุคสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โดยจะมีการก่อสร้างแบบผสมผสานกับศิลปะทวารวดี ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะมีการอ้างอิงจากหลักฐานเก่าแก่ ที่มีการขุดค้นพบที่บริเวณริมแม่น้ำแคว ไม่ว่าจะจากหลักฐานที่เป็นเครื่องใช้เครื่องมือ หรือหลักฐานจากหลุมฝังศพที่ถูกค้นพบใกล้ ๆ บริเวณนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าปราสาทแห่งนี้ คือปราสาทโบราณที่มีอายุยาวนานหลายพันปี

โบราณสถานของปราสาทเมืองสิงห์

หากมาที่นี่ สิ่งแรกเลยที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็น ก็คือ ความแปลกตาของรูปแบบการสร้าง ปราสาทแห่งนี้จะมีบริเวณตรงกลางปราสาท ที่มีการออกแบบระเบียงคดลักษณะคล้ายซุ้มประตู เมื่อเข้าไปที่บริเวณด้านในของปราสาทเมืองสิงห์จะพบกับประติมากรรมล้ำค่าจำนวนมาก และเพื่อเป็นไกด์มาเที่ยว เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโบราณสถานที่ห้ามพลาดมาฝากดังนี้

โบราณสถานของปราสาทเมืองสิงห์

โบราณสถานหมายเลข 1

“โบราณสถานหมายเลข 1” จะตั้งอยู่ที่บริเวณใจกลางของกลุ่มโบราณสถาน ประกอบไปด้วยสิงห์สำคัญ ได้แก่ ปรางค์ประธาน, ระเบียงคด, โคปุระ, บรรณศาลา และกำแพงแก้ว

โบราณสถานหมายเลข 2

“โบราณสถานหมายเลข 2” จะเป็นโบราณสถานที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับโบราณสถานหมายเลข 1 ประกอบไปด้วยปรางค์ประธาน และโคปุระ 4 ด้าน ที่มีการพังทลายลงมา ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นสถานที่ที่มีการขุดพบเทวรูป

โบราณสถานหมายเลข 3

“โบราณสถานหมายเลข 3” จะเป็นโบราณสถานปราสาทเมืองสิงห์ ที่อยู่บริเวณด้านนอกกำแพงแก้ว มีลักษณะคล้ายกับสิ่งก่อสร้างขนาดเล็ก ที่มีการสร้างด้วยอิฐและศิลาแลง โดยทางกรมศิลปากรสันนิษฐานเอาไว้ว่า เป็นเจดีย์ 2 องค์

โบราณสถานหมายเลข 4

“โบราณสถานหมายเลข 4” จะตั้งอยู่ใกล้กับโบราณสถานหมายเลข 3 โดยโบราณสถานแห่งนี้จะเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นโบราณสถานที่ถูกสร้างด้วยศิลาแลง

ที่ตั้งและการเดินทางมายังปราสาทเมืองสิงห์

นักท่องเที่ยวที่อยากจะมาเที่ยวชมความงาม และความแปลกของปราสาทเมืองสิงห์ เมืองโบราณเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่าพันปี สามารถเดินทางมายังอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ที่ตั้งอยู่ในตำบลเมืองสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรีได้เลย หากเดินทางมาด้วยรถส่วนตัว สามารถตั้ง Google Map มายังที่หมาย หรือใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 323 เส้นทางสายกาญจนบุรี-ไทรโยค และเลี้ยวซ้ายตรงกิโลเมตรที่ 15 แต่สำหรับผู้ที่เดินทางมาด้วยรถโดยสารประจำทาง สามารถมาต่อรถที่ตัวเมืองกาญจนบุรีได้เช่นกัน

ปราสาทเมืองสิงห์

สรุปบทความ

ปราสาทเมืองสิงห์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ของไทย ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมอย่างมากทีเดียว สำหรับผู้ที่มีแพลนจะมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวเพื่อนำเอาไปจัดทริป หรือหากคุณชอบการเที่ยวสไตล์ศึกษาประวัติศาสตร์ “อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์” คือสถานที่ท่องเที่ยวที่เราขอแนะนำ และนอกจากที่เที่ยวแล้ว ถ้าหากคุณยังไม่มีที่พักดี ๆ เราอยากแนะนำให้คุณเลือกจอง รีสอร์ทกาญจนบุรี ริเวอร์แควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) ที่พักที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ และอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่งในจังหวัดกาญจนบุรี เข้าพักที่นี่รับรองเลยว่าการเที่ยวในครั้งนี้ จะเป็นทริปสุดประทับใจของคุณอย่างแน่นอน

รวม 6 กิจกรรมทำร่วมกันแม่ ที่มีเฉพาะในกาญจนบุรีเท่านั้น

หากคุณกำลังจะจัดทริปเที่ยวกับคุณแม่ ในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะถึงนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน หรือยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรดี เรามีกิจกรรมวันแม่ในจังหวัดกาญจนบุรีเอามาฝากกัน หากคุณกำลังหาไอเดียใหม่ ๆ ในการเที่ยวช่วงวันแม่ สามารถนำเอาบทความนี้ไปเป็นแนวทางในการจัดทริปเที่ยวได้เลย

กิจกรรมวันแม่ที่หาได้เฉพาะกาญจนบุรีเท่านั้น

ต้องบอกเลยว่ากิจกรรมที่เรานำเอามาฝากในวันนี้ จะเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์แม่ลูก ที่จะสามารถทำได้ที่จังหวัดกาญจนบุรีของเราเท่านั้น เนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรีของเรา เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเที่ยวแนวธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเที่ยวแบบชิล ๆ เน้นวิว เน้นเก็บความทรงจำ ดังนั้นเราจึงกล้าการันตีเลยว่า ทุกกิจกรรมที่เรานำเอามาฝาก จะเป็นกิจกรรมที่ทำให้คุณแม่ของคุณประทับใจได้อย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปดูกันเลยดีกว่าว่ากิจกรรมที่ริเวอร์แควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) คัดมาฝากมีอะไรบ้าง

ล่องแพกาญจนบุรี

ล่องแพกาญจนบุรี 

กิจกรรมวันแม่ชิล ๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี กิจกรรมแรกที่เราอยากแนะนำ คือ “ล่องแพกาญจนบุรี” อย่างที่เราได้เกริ่นไปแล้วว่า จังหวัดกาญจนบุรีของเรา เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติ หากคุณอยากที่จะเที่ยวแบบปล่อยใจ สูดอากาศบริสุทธิ์ เสพธรรมชาติป่าเขา แม่น้ำ และต้นไม้นานาพันธุ์ เราอยากให้คุณได้ลองล่องแพตามกระแสน้ำสักครั้ง รับรองว่าวิวที่ได้ในระหว่างการล่องแพ จะเป็นวิวที่ทำให้คุณและคุณแม่อิ่มเอมใจ

ล่องเรือชมแม่น้ำแคว

ล่องเรือชมแม่น้ำแคว

นอกจากการล่องแพชมวิวแล้ว หากคุณอยากที่จะเพิ่มความเร็วขึ้นมาอีกหน่อย เราขอแนะนำ “ล่องเรือชมแม่น้ำแคว” โดยการล่องเรือหางยาวนี้ จะเป็นการล่องเรือไปบนเส้นทางแม่น้ำสายประวัติศาสตร์ นอกจากจะได้ชมวิวที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติระหว่างทางแล้ว ยังได้เกร็ดความรู้เพิ่มเติมระหว่างทางอีก

ชมวิถีชีวิตของหมู่บ้านมอญ 

ที่จังหวัดกาญจนบุรีของเราจะมีหมู่บ้านมอญอยู่ด้วย คุณสามารถพาคุณแม่มาเที่ยวชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านมอญได้ ไม่ว่าจะการเรียนรู้ภาษามอญกับเด็ก ๆ การสักการะเจดีย์ชเวดากองจำลอง หรือหากคุณอยากที่จะซื้อของฝากที่ระลึก ที่เป็นฝีมือของชาวมอญแท้ ๆ ก็สามารถมาเลือกอุดหนุนซื้อของฝากได้ที่หมู่บ้านมอญแห่งนี้เช่นเดียวกัน

ชมโชว์รำมอญที่หาชมได้ยาก

ชมโชว์รำมอญที่หาชมได้ยาก

เนื่องจากที่ริเวอร์แควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) ของเรา เป็นรีสอร์ทที่อนุรักษ์ความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมของชาวมอญ ดังนั้นกิจกรรมวันแม่อีกหนึ่งอย่างที่สามารถทำได้ที่นี่เท่านั้น และเป็นกิจกรรมที่เราแนะนำว่าไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด คือการรับชมโชว์รำมอญของชาวมอญนั่นเอง โดยการแสดงรำมอญจะมีทั้งหมด 6 ช่วงด้วยกัน

  1. รำต้อนรับ
  2. รำมอญเด็ก
  3. รำเกี้ยวพา
  4. รำแสงเทียน
  5. สงกรานต์มอญ
  6. รำขอบคุณ
ชมหินงอกหินย้อยในถ้ำละว้า

ชมหินงอกหินย้อยในถ้ำละว้า

แต่หากคุณอยากชมความน่าตื่นตาตื่นใจ และความแปลกที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ก็สามารถที่จะพาคุณแม่ไปเที่ยวชมหินงอกหินย้อยใน “ถ้ำละว้า” ได้เช่นกัน โดยถ้ำแห่งนี้จะอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรามาก อีกทั้งยังเป็นถ้ำที่มีอายุมากกว่า 3,000 ปี ด้านในของถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยลักษณะต่าง ๆ ที่มีความสวยงาม รวมถึงมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน ที่คุณสามารถไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วย

ชวนแม่นวดคลายความเมื่อยล้า

ชวนแม่นวดคลายความเมื่อยล้า

เมื่อเที่ยวกันเต็มที่แล้ว กิจกรรมวันแม่ที่บอกเลยว่าจะขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาดหลังการเที่ยว คือการนวดผ่อนคลายความเมื่อยล้า ด้วยโปรแกรมนวดแผนไทยกับริเวอร์แควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) เพราะการนวดของรีสอร์ทเรา จะเป็นการนวดท่ามกลางวิวธรรมชาติ นอกจากคุณและคุณแม่จะได้ผ่อนคลายร่างกายแล้ว การนวดของเรายังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่จะสามารถช่วยผ่อนคลายจิตใจได้เป็นอย่างดีทีเดียว

สรุปบทความ

ก็จบลงไปแล้วกับ 6 กิจกรรมวันแม่ ที่เราได้นำเอามาฝากกันในวันนี้ และอย่างที่เราได้กล่าวไปในตอนต้นแล้วว่า กิจกรรมที่เรานำเอามาฝาก ล้วนเป็นกิจกรรมที่จะมีแค่เฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น หากคุณสนใจอยากที่จะพาคุณแม่มาพักผ่อนในช่วงวันแม่ที่กำลังจะถึง สามารถจองห้องพักกับริเวอร์แควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) รีสอร์ทกาญจนบุรี ได้เลยวันนี้!!

กิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันส์ที่น่าสนใจ

หากคุณมีแก๊งเพื่อน และกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว หรือมองหาที่สำหรับการพบปะ แต่เบื่อสถานที่เดิม ๆ เราอยากแนะนำให้คุณลองออกมาทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์กันดูบ้าง ซึ่งบอกเลยนะว่า กิจกรรมสุดมันเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่เหมาะอย่างมาก สำหรับการกระชับมิตรความสัมพันธ์ในแก๊งเพื่อน แต่นอกเหนือจากแก๊งเพื่อนแล้ว ครอบครัวไหนที่ต้องการกระชับความสัมพันธ์ ก็สามารถมาสนุกกับกิจกรรมเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน

10 กิจกรรมแอดเวนเจอร์ สำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์

สถานที่ท่องเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์ในปัจจุบันนี้ สามารถหาได้ง่าย เนื่องจากมีให้เลือกเที่ยวหลายแห่งด้วยกัน สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเที่ยวสไตล์นี้มาก่อน เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณ วันนี้เราได้นำเอา 10 กิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่น่าสนใจ นำเอามาฝากคุณโดยเฉพาะ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปดูกันเลยว่า 10 กิจกรรมที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง

Tree Top Adventure Park กาญจนบุรี

1. Tree Top Adventure Park กาญจนบุรี

หากพูดถึงจังหวัดกาญจนบุรี หลายคนคงจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ อย่างการไปเที่ยวน้ำตกกันเป็นส่วนใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่าที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่ได้รับความนิยม และได้รับความสนใจจากเหล่านักท่องเที่ยวสายแอดแวนเจอร์ อย่าง “Tree Top Adventure Park” อยู่ด้วย ซึ่งที่นี่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ให้คุณได้มาทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ โดยเฉพาะ ซึ่ง กิจกรรมกาญจนบุรี แห่งนี้ จะเหมาะอย่างมากกับสายลุย หรือผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นและท้าทาย เพราะหากมาที่นี่คุณจะได้พบกับ 40 ฐานกิจกรรม ที่มีทั้งความสนุกและความหวาดเสียว รับรองเลยว่าถูกใจ 100%

2. ปีนผาจำลอง

“การปีนผาจำลอง” เป็นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยกิจกรรมแห่งนี้ จะเป็นกิจกรรมที่ให้ความรู้สึกท้าทาย ผู้เข้าร่วมจะได้สู้กับความกลัวภายในจิตใจของตัวเอง แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะกิจกรรมปีนผาจำลอง เป็นกิจกรรมที่มีความปลอดภัยสูงมากทีเดียว

กิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันส์ที่น่าสนใจ 1

3. ขับรถ ATV

สายลุยทั้งหลาย คงจะคุ้นเคยกับการ “ขับรถ ATV” กันเป็นอย่างดี ประเทศไทยของเรานั้นมีสถานที่ ที่เหมาะสำหรับการขับรถ ATV หลายแห่งด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดกาญจนบุรี ที่คุณสามารถขับรถ ATV ทำกิจกรรม และเพลิดเพลินไปกับการดื่มด่ำความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติพร้อม ๆ กันได้

4. ผจญภัยล่องแก่ง

ถ้าคุณชอบความท้าทาย อยากที่จะสนุกและเปียกไปในเวลาเดียวกัน เราขอแนะนำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่น่าสนใจอย่างการ “ผจญภัยล่องแก่ง” โดยกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ชั้นดี อีกทั้งคุณจะยังได้คลายร้อนชุ่มฉ่ำ สนุกกับการเล่นน้ำ ที่แม่น้ำและลำธารต่าง ๆ ด้วย

กิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันส์ที่น่าสนใจ 2

5. ดำน้ำตื้น

หากคุณอยากดูความงามของธรรมชาติที่อยู่ใต้ท้องทะเล “การดำน้ำตื้น” ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ โดยกิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ง่าย ต่อให้คุณจะไม่เคยดำน้ำมาก่อนเลย คุณก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นเดียวกัน เพราะการดำน้ำตื้นจะมีเจ้าหน้าที่ คอยสอนเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ และการหายใจ รับรองว่าเป็นกิจกรรมที่ทั้งสนุก ที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม

6. เล่นเซิร์ฟในร่ม

สำหรับใครที่อยากลองเล่นเซิร์ฟ แต่ไม่เคยเล่นเซิร์ฟมาก่อน การจะไปเล่นที่ทะเลจริง ๆ ก็อาจจะยาก และอันตรายจนเกินไป ดังนั้น “เซิร์ฟในร่ม” จึงถือเป็นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี โดยการเล่นเซิร์ฟในร่มนั้น จะเป็นการโต้คลื่นจำลอง จึงเป็นกิจกรรมที่มีความปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำจะไม่สูงมาก อีกทั้งนี่ยังเป็นกิจกรรมออกกำลังกายชั้นดี ที่จะทำให้ร่างกายของคุณแข็งแรง และสนุกไปพร้อม ๆ กัน

7. เรียนยิงปืน

หากคุณอยากวัดความแม่นของตัวเอง เราอยากแนะนำให้ลองเรียนยิงปืนกันดู เพราะกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่คุณจะได้วัดความแม่นยำของตัวเอง อีกทั้งยังได้ท้าทายความสามารถจากการฝึกยิงเป้า และได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ปืนรูปแบบต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงด้วย

8. ขี่จักรยานเที่ยวอยุธยาเมืองประวัติศาสตร์

สำหรับใครที่เป็นสายเที่ยวศึกษาหาความรู้ หรือชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เราขอเสนอให้ลองมา “ขี่จักรยานเที่ยวอยุธยา” เมืองประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทย โดยจุดไฮไลท์ของกิจกรรมนี้ คือการปั่นจักรยานรอบอุทยานประวัติศาสตร์ คุณจะได้รับความสนุกเพลิดเพลิน และได้รับความรู้ไปด้วยในเวลาเดียวกัน

กิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันส์ที่น่าสนใจ 3

9. โกคาร์ท กรุงเทพ

หากคุณชอบความเร็ว และชอบความท้าทาย กิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่เราคิดว่าน่าจะตอบโจทย์กับคุณมากที่สุด คือ “การขับโกคาร์ท” โดยที่แห่งนี้ เป็นสถานที่กิจกรรมที่สามารถเล่นได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมากับกลุ่มเพื่อน หรือมากับครอบครัว ก็สามารถสนุกร่วมกันได้

10. สยามเลเซอร์เกม (Siam Laser Games)

กิจกรรมแอดเวนเจอร์กิจกรรมสุดท้าย ที่เราอยากแนะนำ คือการไปเล่นสนุกที่ “สยามเลเซอร์เกม” โดยการไปเล่นสนุกที่นี่ คุณจะมีเพื่อนเยอะหรือน้อย ก็สามารถเข้าร่วมและเพลิดเพลินได้ ที่นี่จะเป็นกิจกรรมท้าทายที่มีความตื่นเต้น เพียงแค่คุณเล็งยิงใส่ผู้เล่นฝั่งตรงข้าม และทำคะแนนให้ได้มากที่สุด ก็ถือเป็นอันชนะ

กิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันส์ที่น่าสนใจ 4

สรุปบทความ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 กิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่เราได้นำเอามาฝากในวันนี้ มีกิจกรรมไหนที่เข้าตา หรือคุณรู้สึกสนใจเป็นพิเศษหรือไม่ แต่หากคุณรู้สึกว่า 10 กิจกรรมที่เรานำเอามาฝากยังไม่จุใจ ในเว็บไซต์ของเรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ที่เราอยากแนะนำให้คุณรู้จัก โดยคุณสามารถเข้ามาชมที่เที่ยวเพิ่มเติม พร้อมจองที่พักผ่านทางเว็บไซต์ รีโซเทล ริเวอร์แคว (River Kwai Resotel Resort) ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ!!

พาเที่ยวถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ

ถ้าคุณเบื่อกับการเที่ยวในรูปแบบเดิม ๆ และอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาลองเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ เราอยากแนะนำให้เดินทางมาเที่ยวที่ “ถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ” จังหวัดกาญจนบุรี โดยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์อีกหนึ่งแห่ง ที่มีความยิ่งใหญ่อย่างมากเลยทีเดียว หากคุณสนใจอยากเดินทางมาเที่ยวที่นี่ เราได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้น เพื่อเป็นแนวทางการเที่ยว เป็นไกด์นำเที่ยวให้คุณแล้วผ่านทางบทความนี้

ประวัติของถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ

“ถ้ำกระแซ” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ติดกับ “ทางรถไฟสายมรณะ” ที่มีการสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยถ้ำแห่งนี้ในอดีตเคยเป็นที่พักของเชลยศึก ที่ถูกเกณฑ์มาเพื่อสร้างเส้นทางรถไฟเส้นทางไทยไปยังพม่า ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญอย่างมากทีเดียว และเนื่องจากที่บริเวณนี้มีลักษณะเป็นสะพานโค้งเลียบแม่น้ำแควน้อย ซึ่งมีทั้งความสูงและความอันตราย ทำให้ในระหว่างการก่อสร้าง มีเชลยศึกจำนวนมาก เสียชีวิตจากการสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะแห่งนี้

ฮไลท์สำคัญของถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ

นอกจากถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์แล้ว ด้วยความพิเศษของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ทำให้ถ้ำกระแซมีจุดไฮไลท์สำคัญ 2 สิ่งด้วยกัน ได้แก่ การไหว้พระที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำกระแซ และการเดินเที่ยวบนทางรถไฟสายมรณะ

1. ไหว้พระถ้ำกระแซ

ที่บริเวณด้านในของถ้ำกระแซ จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ และด้วยความที่ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และมีความมืดของบรรยากาศโดยรอบ ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะสัมผัสได้ถึงความขลังของสถานที่แห่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

2. เดินเที่ยวบนทางรถไฟสายมรณะ

เมื่อกราบไหว้พระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานในถ้ำเรียบร้อยแล้ว มาต่อกันที่ทางรถไฟสายมรณะกันบ้าง โดยที่แห่งนี้จะเป็นจุดชมวิวแม่น้ำแควที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด และอันตรายมากที่สุดของเส้นทางรถไฟ เนื่องจากมีความสูง และเป็นทางเลียบหน้าผา แต่สำหรับผู้ที่กลัวความสูง สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์สักเท่าไหร่ 

พาเที่ยวถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ 5

การเดินทางมาถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ

พิกัดของถ้ำกระแซ จะอยู่ที่ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ในการเดินทางมาเที่ยวยังถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ สามารถเดินทางมาได้ง่าย 2 วิธีด้วยกัน

  1. เดินทางมาด้วยรถส่วนตัว : ขับจากตัวเมืองกาญจนบุรี โดยใช้ถนนแสงชูโต ขับไปจนถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน ให้คุณขับเลี้ยวไปตามป้ายบอกทาง อำเภอไทรโยค-ทองผาภูมิ เมื่อขับผ่านวัดป่าหลวงตาบัว ให้เลี้ยวซ้ายตรงทางหลวง 3343 หลังจากนั้นให้ขับตามป้ายบอกทางมายังถ้ำกระแซได้เลย
  2. เดินทางมาด้วยรถไฟ : สามารถเดินทางมาได้ด้วยการขึ้นรถไฟ จากสายกรุงเทพฯ-น้ำตก และลงที่จุดหมาย เดินทางมายังถ้ำกระแซได้เลย

ข้อมูลการท่องเที่ยวถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ

พาเที่ยวถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ 6

สรุปบทความ

ทั้งหมดนี้ คือ ความน่าสนใจของถ้ำกระแซทางรถไฟสายมรณะ สถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรี ที่เราอยากแนะนำให้คุณได้ลองมาเที่ยวสักครั้ง โดยสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งแห่งของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความสนใจจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 

แต่นอกจากถ้ำกระแซแห่งนี้แล้ว จังหวัดกาญจนบุรีของเรา ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง ที่รอให้คุณเดินทางมาสำรวจอีกมาก หากคุณชื่นชอบการเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ และไม่อยากพลาดสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ ที่น่าสนใจ หรือไม่อยากพลาดสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าค้นหา เราแนะนำให้คุณเลือกเข้าพักที่ ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์ (River Kwai Jungle Rafts) ที่พักเมืองกาญ เพราะที่พักแห่งนี้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่เที่ยวของจังหวัดกาญฯ รับรองว่าคุณจะสามารถเที่ยวได้อย่างจุใจแน่นอน

น้ำตกไทรโยค รวมข้อมูลสำคัญก่อนเดินทางไปเที่ยว

“น้ำตกไทรโยค” คือน้ำตกที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้น ๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี หากใครกำลังมองหาที่เที่ยวแนวธรรมชาติ เพื่อจะเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว, เพื่อนฝูง หรือมาเที่ยวพักผ่อนกับคนรัก ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะถึง น้ำตกแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสม และเรากล้าการันตีเลยว่าน้ำตกแห่งนี้ จะสร้างความประทับใจให้กับคุณได้อย่างแน่นอน

ประวัติของน้ำตกไทรโยค

น้ำตกไทรโยค เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติไทรโยค มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “น้ำตกเขาโจน” โดยน้ำตกแห่งนี้จะเป็นน้ำตกที่มีสายน้ำไหลจากหน้าผาลงมาสู่แม่น้ำแควน้อย ในอดีตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เคยเสด็จประพาสที่น้ำตกแห่งนี้ อีกทั้งยังเคยมีการพรรณนาถึงความงดงามของน้ำตกแห่งนี้เอาไว้ด้วย ซึ่งความงดงามของน้ำตกแห่งนี้ ก็ได้ทำให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงประพันธ์บท เพลง “เขมรไทรโยค” จนกลายเป็นที่เลื่องลือตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบัน

ข้อมูลทั่วไปของน้ำตกไทรโยค

น้ำตกแห่งนี้ เป็นน้ำตกที่มีสายน้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทางด้วยกัน สำหรับผู้ที่ต้องการจะมาเดินชมความงามของธรรมชาติ หรือต้องการจะมาพักผ่อนหย่อนใจ ลงเล่นน้ำแช่น้ำเย็น ๆ สามารถเดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคได้เลย ที่บริเวณของอุทยานแห่งชาตินี้ จะมีแพพัก, แพล่อง, เรือเช่า, และร้านอาหารให้บริการทุกวัน

ส่วนลักษณะภูมิประเทศของ อุทยานแห่งชาติไทรโยค

อุทยานแห่งชาติไทรโยค มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน โดยเทือกเขาส่วนใหญ่จะมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 300-600 เมตร ในส่วนของเทือกเขาที่สูงที่สุดจะมีความสูงอยู่ที่ 1,327 เมตร ได้แก่ “ยอดเขาแขวะ” นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติไทรโยค ยังเป็นอุทยานที่เป็นพื้นที่ต้นของลำธารสายสำคัญ อย่าง แม่น้ำแควน้อย ที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรีด้วย

ไฮไลต์สำคัญของการมาเที่ยวน้ำตกไทรโยค

น้ำตกไทรโยค

สำหรับผู้ที่กำลังสนใจอยากจะเดินทางมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเลือกไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ริเวอร์เเควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) ได้นำเอา 7 จุดท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์สำคัญ ของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้นำเอามาฝาก หากมาเที่ยวที่นี่ต้องไม่พลาดจุดไฮไลต์ไหนบ้างไปดู

1. น้ำตกไทรโยคน้อย

หากพูดถึงจุดไฮไลต์สำคัญ ของการมาเที่ยวที่น้ำตกไทรโยค ก็ต้องพูดถึงน้ำตกกันก่อน และน้ำตกแห่งแรกได้แก่ น้ำตกไทรโยคน้อย หรืออีกชื่อเรียกว่า น้ำตกเขาพัง โดยน้ำตกแห่งนี้จะมีต้นกำเนิดมาจากการที่หน้าผาหินปูนพังทลายลงมา และมีน้ำผุดจากภูเขาไหลลงมาตามลำธาร และตกลงมาที่ผาหินปูน ซึ่งน้ำตกแห่งนี้จะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 15 เมตร บรรยากาศโดยรอบของน้ำตกนั้นสวยไม่แพ้น้ำตกอื่น ๆ ในจังหวัดกาญจนบุรีแน่นอน

2. น้ำตกไทรโยคเล็ก

น้ำตกไทรโยคเล็ก เป็นน้ำตกที่มีความสูงโดดเด่น อีกทั้งยังมีสายน้ำพุ่งตกลงมาจากชั้นบน ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย หากเดินทางมาเที่ยวในช่วงฤดูฝน น้ำตกแห่งนี้จะมีน้ำเยอะ เหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำมากทีเดียว และถ้าหากมาในช่วงฤดูหนาว น้ำตกแห่งนี้ก็จะมีบรรยากาศความหนาวเย็น มีเสน่ห์ไปอีกแบบ แต่ไม่ว่าจะช่วงฤดูกาลไหนน้ำตกแห่งนี้ก็จะมีน้ำให้เล่นชุ่มฉ่ำได้ตลอดทั้งปี

3. น้ำตกไทรโยคใหญ่

น้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ชั้นเดียว ที่มีชั้นของหินสลับกันเป็นชั้น ๆ และมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 8 เมตรด้วยกัน ที่นี่นอกจากจะลงเล่นน้ำเย็น ๆ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้แล้ว ยังสามารถเดินชมทัศนียภาพ ความงามของน้ำตกได้ที่บริเวณสะพานแขวนด้วย สำหรับใครที่อยากเที่ยวน้ำตกแบบมีกิจกรรมให้ทำเยอะ น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกที่ค่อนข้างตอบโจทย์มากทีเดียว

4. แม่น้ำแควน้อย

แม่น้ำแควน้อย เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลต์ที่สำคัญของการมาเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี โดยแม่น้ำแห่งนี้เป็นแม่น้ำที่จะไหลไปรวมกันกับแม่น้ำแควใหญ่ และกลายเป็นแม่น้ำกลองที่อยู่ในตัวเมืองกาญจนบุรี ที่ริมฝั่งของแม่น้ำบางตอนจะมีหาดทรายยื่นออกมา อีกทั้งยังเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญ และเป็นแม่น้ำที่นักท่องเที่ยวนิยมล่องแพเพื่อดื่มด่ำความงามของธรรมชาติ เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อน

5. ถ้ำแก้ว

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินสำรวจเส้นทาง หรือชอบศึกษาเส้นทางธรรมชาติ อีกหนึ่งจุดไฮไลต์สำคัญของการเที่ยวอุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้แก่ ถ้ำแก้ว ถ้ำขนาดเล็กที่มีความยาวประมาณ 200 เมตร ด้านในของถ้ำจะเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อีกทั้งด้านในยังมีบ่อน้ำผุดปรากฏให้ได้เห็น รับรองว่ามาเที่ยวที่นี่ตื่นตาตื่นใจแน่นอน

6. ถ้ำดาวดึงส์

มาต่อกันที่ถ้ำดาวดึงส์ ถ้ำที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามมากที่สุดอีกหนึ่งแห่งของประเทศไทย ถ้ำแห่งนี้จะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 300-400 เมตร ด้านในของถ้ำจะมีการแบ่งออกเป็นห้อง ๆ ได้ทั้งหมด 8 ห้องด้วยกัน ซึ่งแต่ละห้องก็จะมีการตั้งชื่อตามลักษณะของหินงอกหินย้อยด้านใน อาทิเช่น ห้องโคมระย้า, ห้องเจดีย์, และห้องจีบม่านฟ้า เป็นต้น

7. ถ้ำละว้า

และสุดท้ายกับถ้ำละว้า ถ้ำที่อยู่ห่างจากน้ำตกไทรโยคไปประมาณ 20 กิโลเมตร โดยถ้ำแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีความลึกอยู่ที่ประมาณ 450 เมตร ด้านในของถ้ำจะเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย ที่มีความงดงามแปลกตา และมีการแบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ อาทิเช่น ห้องท้องพระโรง, ห้องดนตรี และห้องม่าน นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ด้านในของถ้ำยังมีหลักฐานของมนุษย์ยุคโบราณ เช่น ฟันของมนุษย์ ปรากฏอยู่ด้วย

สิ่งอำนวยความสะดวก

การเดินทางไปน้ำตกไทรโยค

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวที่น้ำตกไทรโยคสามารถเดินทางมาได้ 4 วิธีด้วยกัน

  1. เดินทางมาด้วยเรือ : ลงเรือที่ท่าเรืออำเภอเมืองกาญจนบุรีมายังน้ำตก
  2. เดินทางมาด้วยรถไฟ : นั่งรถไฟจากสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) มายังสถานีน้ำตก (ไทรโยคน้อย) จากนั้นต่อรถสองแถวเล็กไปอีกประมาณ 34 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลักกิโลเมตรที่ 81
  3. เดินทางมาด้วยรถโดยสารประจำทาง : นั่งรถจากสถานีขนส่งสายใต้-กรุงเทพฯ มาลงที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี และนั่งรถประจำทางสายทองผาภูมิ มาลงที่ทางเข้าอุทยานฯ และต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
  4. เดินทางมาด้วยรถส่วนตัว : สามารถเปิด Google Map และปักพิกัดมายังอุทยานแห่งชาติไทรโยคได้เลย
น้ำตกไทรโยค

สรุปบทความ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะมาเที่ยวที่น้ำตกไทรโยค นี่คือข้อมูลขั้นพื้นฐานที่จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ง่ายขึ้น และเป็นข้อมูลที่จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่พลาดสถานที่สำคัญ ๆ จุดไฮไลต์ที่น่าสนใจของอุทยานแห่งชาติไทรโยค สำหรับนักท่องเที่ยวท่านไหนที่มีแพลนจะมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติไทรโยค หรือมีแพลนจะมาเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรี แนะนำเลือกจอง ที่พักไทรโยค ที่ดีที่สุด และออกไปสนุกผ่อนคลายกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รับประกันเลยว่าทริปเที่ยวกาญจนบุรีครั้งนี้ คุณจะฟินกับบรรยากาศ ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ และเพลิดเพลินไปกับความงดงามของจังหวัดกาญจนบุรีอย่างไม่รู้ลืม!

วัดสายมูกาญจนบุรีมีที่ไหนบ้าง

จังหวัดกาญจนบุรี นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ อย่าง น้ำตก, ถ้ำ, เขื่อน หรือแม่น้ำแล้ว จังหวัดกาญจนบุรียังเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่ามีวัดสายมูกาญจนบุรี ที่สวยงามและศักดิ์สิทธิ์อีกหลายแห่ง สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใด ที่มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่จังหวัดกาญจนบุรี หากอยากไปเที่ยวชมความงามของวัด และอยากทำบุญเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต ริเวอร์เเควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) ได้รวบรวมวัดดังมาให้แล้วที่นี่

รวม 10 วัดสายมูกาญจนบุรี

สำหรับสายมู หรือผู้ที่กำลังวางแพลนทริปไหว้พระวัดสายมูกาญจนบุรี หากไม่รู้จะไปวัดไหนในจังหวัดกาญจนบุรี สามารถจัดทริปโดยอิงจากวัดที่เรานำเอามาฝากด้านล่างนี้ได้เลย

วัดถ้ำเสือ

1. วัดถ้ำเสือ 

สำหรับวัดสายมูกาญจนบุรีวัดแรก ที่เราอยากแนะนำให้คุณได้ไปกราบไหว้ สักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ “วัดถ้ำเสือ” วัดชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีหลวงพ่อชินน์ประทานพรองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ที่กลางวัด นอกจากความงดงาม และความยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อชินน์ประทานพรแล้ว ที่วัดแห่งนี้ยังมีพระอุโบสถอัฏฐมุขทรงไทย และเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทให้กราบไหว้ด้วย

2. เจดีย์พุทธคยา สังขละบุรี 

วัดสายมูกาญจนบุรีวัดต่อมา ที่เราได้นำเอามาแนะนำ ได้แก่ “เจดีย์พุทธคยา สังขละบุรี” โดยเจดีย์แห่งนี้เป็นเจดีย์ที่มีการจำลองมาจากเจดีย์พุทธคยา ของประเทศอินเดีย มีการสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2521 ด้านในเจดีย์มีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ หลวงพ่ออุตตมะ ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา สำหรับผู้ที่ต้องการชมความงามของศิลปะที่แปลกตา เจดีย์พุทธคยา คือสถานที่ที่เราขอแนะนำ

วัดวังก์วิเวการาม

3. วัดวังก์วิเวการาม 

“วัดวังก์วิเวการาม” เป็นหนึ่งในวัดที่มีความแปลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกหนึ่งแห่งของประเทศไทย ความพิเศษของวัดวังก์วิเวการาม คือ “โบสถ์ใต้น้ำ” ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมได้ในช่วงเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม หรือช่วงที่น้ำลงเท่านั้น แต่หากมาในช่วงฤดูฝนจะทำได้เพียงนั่งเรือชมโบสถ์ที่จมอยู่ใต้น้ำเท่านั้น

4. วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ 

“วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ” คือวัดสายมูกาญจนบุรีที่ถ้าหากคุณเชื่อในเรื่องศาสตร์ของการมู วัดแห่งนี้เป็นวัดที่จะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด ด้านในของวัดแห่งนี้จะเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิมพันกร หรือ เจ้าแม่กวนอิมปางพันมือ 4 ทิศ ที่มีความสูงมากถึง 12 เมตร หากเดินทางมาที่นี่ สามารถมากราบไหว้ ขอพร รวมถึงสามารถแก้ชง และเสริมดวงให้แก่ตัวเอง และครอบครัวได้

5. วัดไชยชุมพลชนะสงคราม 

“วัดไชยชุมพลชนะสงคราม” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดใต้” เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความเก่าแก่อยู่คู่กับจังหวัดกาญจนบุรีมายาวนาน ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่ได้มีการสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ใกล้กับพระอุโบสถหลังเก่า และเรือเทวดา เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทจำลอง, พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อายุร้อยปี, หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่เปลี่ยน, หลวงพ่อทันใจ และพระบรมสารีริกธาตุ

วัดถ้ำเขาน้อย

6. วัดถ้ำเขาน้อย 

มาต่อกันที่ “วัดถ้ำเขาน้อย” วัดญวนที่มีความเก่าแก่ และมีอายุนานกว่า 140 ปี เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องของตำนานเหล็กไหล อีกทั้งยังขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องตำนานของขลัง ที่วัดแห่งนี้จะเป็นวัดที่มีการสร้าง และตกแต่ง ในรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบจีน มีวิหารเจ้าแม่กวนอิม และเจดีย์หมื่นพุทธะ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมากราบไหว้ได้

7. วัดสระลงเรือ 

“วัดสระลงเรือ” ถือเป็นอีกหนึ่งวัดสายมูกาญจนบุรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นวัดที่สร้างมานานกว่า 350-400 ปี หากเดินทางมาที่นี่ คุณจะตื่นตาตื่นใจกับเรือสุพรรณหงส์จำลองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่ตั้งอยู่กลางวัด ด้านในจะมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ภายในวัดจะมีหลวงพ่อใหญ่องค์ดำ และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สายมูสามารถเดินทางมากราบไหว้ขอพรในสิ่งที่ปรารถนาได้ทุกเรื่อง

วัดเทวสังฆาราม

8. วัดเทวสังฆาราม 

สำหรับวัดอันดับที่ 8 ที่เราได้นำเอามาฝากในวันนี้ ได้แก่ “วัดเทวสังฆาราม” หรือที่ชาวบ้านจังหวัดกาญจนบุรี เรียกกันว่า “วัดเหนือ” ที่วัดแห่งนี้จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นวัดที่มีการสร้าง และออกแบบโดยการใช้สถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน ระหว่างศิลปะอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่แปลกตาอย่างมากทีเดียว

9. วัดถาวรวราราม 

“วัดถาวรวราราม” หรือที่คนจังหวัดกาญจนบุรีเรียกกันด้วยชื่อ “คั้นถ่อตื่อ” วัดแห่งนี้จัดเป็นวัดญวนแห่งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ 3 การตกแต่งของวัดทั้งหมดจะตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมจีน และมีการนำเอาสถาปัตยกรรมญวนมาผสมผสานในการออกแบบด้วย ด้านในมีพระตำหนักสมเด็จพระญาณสังวร, หอเทียนฐาน อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต ศูนย์รวมจิตใจของชาวกาญจนบุรี

พิกัด : ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

เวลาเปิด-ปิด : 08.00-18.00 น.

วัดถ้ำคีรีธรรม

10. วัดถ้ำคีรีธรรม

วัดสายมูกาญจนบุรีวัดสุดท้าย ได้แก่ “วัดถ้ำศีรีธรรม” เป็นวัดที่มีทั้งความสวยงาม และความสงบ ภายในของวัดมีอุโบสถมหาอุด และถ้ำขนาดใหญ่ ที่ว่ากันว่าเป็นรอยทางผ่านของ องค์ปู่นิลกาฬ นาคราช พญานาคตระกูลสีดำ และยังเป็นสถานที่ประดิษฐานของสมเด็จพระศรีเพชรธรรมวัตรศาสดา หรือหลวงพ่อโตด้วย

วัดสายมูกาญจนบุรีมีที่ไหนบ้าง 7

สรุปบทความ

นอกจาก 10 วัดสายมูกาญจนบุรีที่เราได้นำเอามาฝากในข้างต้น จังหวัดกาญจนบุรียังมีวัดที่มีชื่อเสียง และมีวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ควรค่าแก่การเดินทางไปกราบไหว้อีกหลายแห่งด้วยกัน นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมกาญจนบุรี ให้เลือกทำอีกหลายรูปแบบ สำหรับผู้ที่กำลังจะเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรี หากอยากเที่ยวหลายที่แบบไม่เหนื่อยจนเกินไป เราขอแนะนำให้เข้าพักที่ ริเวอร์เเควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) ที่พักติดกับริมแม่น้ำแคว ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความสงบ และการให้บริการที่ดีเยี่ยม รับรองว่าเข้าพักที่ริเวอร์เเควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) ร่างกายของคุณจะพร้อมสำหรับการเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของจังหวัดกาญจนบุรีแบบ 100%

พูลวิลล่ากาญจนบุรี ตัวเลือกการพักผ่อนวิวแม่น้ำแคว

กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย บริเวณทางด้านตะวันตกของประเทศไทยเป็นเขตชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ทำให้กาญจนบุรีเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังมีธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ไม่ควรพลาด สำหรับใครที่กำลังอยากแวะมาเที่ยวกาญจนบุรี และกำลังมองหาที่พักแบบพูลวิวล่ากาญจนบุรี ที่มีความเป็นส่วนตัว บทความนี้จะชวนไปดู 2 พูลวิลล่ากาญจนบุรีในเครือเซเรนาต้าที่มีความสวยงาม เหมาะจะพักในวันสบาย ๆ 

พูลวิลล่ากาญจนบุรีสุดหรูที่ริเวอร์เเคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort)

พูลวิลล่ากาญจนบุรีริเวอร์เเคว รีโซเทล

ริเวอร์เเคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort) เป็นรีสอร์ทที่ออกแบบ และตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ทรอปิคอล (Tropical) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมในเขตร้อน ที่เน้นการออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ภายใต้แนวคิดที่ว่าคนสามารถอาศัยร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน การพักที่พูลวิลล่ากาญจนบุรีที่นี่จึงทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ พร้อมชมวิวแม่น้ำแควได้อย่างลงตัว 

ในส่วนของห้องพักพูลวิลล่ากาญจนบุรีที่ริเวอร์เเคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort) เป็นแบบบังกะโลที่แยกเป็นหลัง ๆ ทำให้บรรยากาศมีความเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว ช่วยให้คุณพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ มาพร้อมกับจากุซซี่ส่วนตัวที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำแคว ที่สามารถแช่ไปพร้อม ๆ กับการชมวิวทิวทัศน์ที่มีความสวยงามได้

กิจกรรมที่น่าสนใจในริเวอร์เเคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort)

กิจกรรมที่น่าสนใจในริเวอร์เเคว รีโซเทล รีสอร์ท

สำหรับใครที่อยากพักผ่อนในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่มีความสวยงาม รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ การเลือกพักที่รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort) รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน นอกจากบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อนแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ทั้งกิจกรรมทางน้ำอย่างการพายซัพบอร์ด การล่องเรือหางยาว พายเรือคายัค ล่องแพไม้ไผ่ หรือจะเป็นการนวดผ่อนคลายก็มีให้เลือกทำตามที่ต้องการ 

สถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ ริเวอร์เเคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort)

นอกจากกิจกรรมภายในพูลวิลล่ากาญจนบุรีแห่งนี่แล้ว บริเวณรอบ ๆ ยังใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อย่างถ้ำละว้า ซึ่งเป็นถ้ำที่มีหินงอก หินย้อยที่มีความสวยงาม และค้างคาวคุณกิตติที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกอีกด้วย หรือใครที่ชอบเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่นี่ยังอยู่ใกล้กับหมู่บ้านมอญ ที่คุณสามารถเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวมอญ พร้อมด้วยเรียนรู้ภาษามอญกับเด็ก ๆ ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ได้ด้วย 

ข้อมูลที่พักริเวอร์เเคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort)

พูลวิลล่ากาญจนบุรีที่โฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Home Phutoey River Kwai)

พูลวิลล่ากาญจนบุรีที่โฮมพุเตย

อีกหนึ่งพูลวิลล่ากาญจนบุรีในเครือเซเรนาต้าที่อยากแนะนำคือ โฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Home Phutoey River Kwai) ที่พักที่ออกแบบสไตล์ Boutique Log Cabin Home หรือบ้านพักไม้ซุง ที่มีการเลือกใช้ไม้สักท่อนมาใช้ในการตกแต่ง เพื่อให้บรรยากาศมีความอบอุ่น เหมาะกับการพักผ่อน และเข้ากับธรรมชาติรอบ ๆ ที่พักได้อย่างลงตัว สำหรับพูลวิลล่ากาญจนบุรีที่นี่ตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำ พร้อมมีระเบียงส่วนตัวที่สามารถนั่งชมวิว พร้อมรับอากาศบริสุทธิ์ได้จากห้องพักเลย

กิจกรรมที่น่าสนใจในโฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Home Phutoey River Kwai)

กิจกรรมที่น่าสนใจในโฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท

โฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Home Phutoey River Kwai) เป็นห้องพักแบบพูลวิวว่ากาญจนบุรีที่มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย แต่ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่สระน้ำแร่ร้อนกลางแจ้ง ที่ได้มาจากแหล่งน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติใต้พิภพ (Thermal Hotspring Pool) ที่สามารถแช่ตัว แช่เท้า เพื่อผ่อนคลายร่างกาย ช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นได้ 

นอกจากนี้สำหรับใครที่ชอบความท้าทาย หรือกิจกรรมที่มีความตื่นเต้น ที่นี่ยังมีทรีท๊อปแอดเวนเจอร์ (Treetop Adventure Park) มากถึง 40 ฐาน ที่มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสากล ที่รับรองได้ว่าสนุกได้อย่างปลอดภัย ใครจะเลือกทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่โฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Home Phutoey River Kwai) ก็ยังมีกิจกรรมพายแคนู ล่องแพไม้ไผ่ หรือขี่จักรยานเสือภูเขาให้เลือกทำ

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ โฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Home Phutoey River Kwai)

โฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Home Phutoey River Kwai) เป็นที่พักพูลวิลล่ากาญจนบุรีที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีความสวยงาม อีกทั้งยังใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถ้ำละว้า ที่ภายในมีหินงอก หินย้อยที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ หรือใครอยากจะเล่นน้ำตก ที่นี่ก็ใกล้อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ภายในอุทยานมีน้ำตก และธรรมชาติที่มีความสวยงาม 

ข้อมูลที่พักโฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Home Phutoey River Kwai)

สรุป

พูลวิลล่ากาญจนบุรีในเครือเซเรนาต้าทั้งสองที่นั้นมีการออกแบบ และตกแต่งกันคนละสไตล์ แต่ทั้งริเวอร์เเคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort) และโฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Home Phutoey River Kwai) ล้วนมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่มีความงดงาม พร้อมด้วยวิวแม่น้ำแควน้อย และบรรยากาศที่มีความเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อน สำหรับใครที่สนใจอยากเข้าพักพูลวิลล่าทั้งสองที่สามารถจองได้โดยตรง ผ่านช่องทางที่ได้แนะนำไป เพื่อให้ได้ราคาและโปรโมชันที่ดีที่สุด ทั้งราคาห้องพัก และราคาค่าทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการมาเที่ยวกาญจนบุรีที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด

ดีลักซ์ แฟมิลี่ ควอด

หน้าร้อนเที่ยวน้ำตกกาญจนบุรีที่ไหนดี?

อากาศร้อนแบบนี้ ถ้าคุณอยากหาที่เที่ยวพักผ่อนคลายร้อน เราขอแนะนำมาเที่ยวที่น้ำตกกาญ สถานที่ท่องเที่ยว ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความร่มรื่น และความเย็นสบาย ลองมาเสพบรรยากาศของธรรมชาติ ลงเล่นแช่น้ำ เที่ยวน้ำตกกาญในช่วงหน้าร้อนกันดีกว่า

10 น้ำตกกาญจนบุรี คลายร้อนฉ่ำ ๆ ต้อนรับหน้าร้อน

ถ้าคุณต้องการเที่ยวน้ำตกที่กาญแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะเลือกไปน้ำตกไหนดีในจังหวัดกาญจนบุรี วันนี้เราได้นำเอา 10 น้ำตกกาญสวย ๆ ที่จะช่วยฮีลใจ และช่วยทำให้คุณผ่อนคลาย นำเอามาฝากผ่านทางบทความนี้ จะมีน้ำตกไหนน่าสนใจและอยู่ในลิสต์แนะนำบ้างไปดู

1. น้ำตกเอราวัณ

เที่ยวน้ำตกกาญเอราวัณ

เปิดประเดิมที่แรกกับ “น้ำตกเอราวัณ” น้ำตกจังหวัดกาญจนบุรีที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด และเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีด้วยกันถึง 7 ชั้น โดยในแต่ละชั้นของน้ำตกเอราวัณจะมีชื่อเรียก และมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป จุดเด่นของน้ำตกแห่งนี้จะอยู่ที่สายน้ำสีเขียวมรกต ความสะอาดของน้ำตกที่ใสสะอาดจนสามารถมองเห็นปลาแหวกว่ายได้ เท่านั้นยังไม่พอน้ำตกที่ไหลลงมายังมีลักษณะคล้ายกับหัวของช้างเอราวัณอีกด้วย 

2. น้ำตกไทรโยคน้อย

สำหรับผู้ที่อยากเที่ยวน้ำตกกาญแบบสงบ คนไม่เยอะ ไม่วุ่นวาย เราแนะนำเลยว่าต้องมาที่น้ำตกไทรโยคน้อย หนึ่งในน้ำตกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จมาประพาส หากคุณมาที่น้ำตกไทรโยคน้อย นอกจากจะได้ลงเล่นน้ำ แช่น้ำตกเย็น ๆ ชุ่มฉ่ำกันแล้ว ยังสามารถเดินชมหัวรถจักรไอน้ำ เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อีก

3. น้ำตกไทรโยคใหญ่

ถ้าคุณอยากเที่ยวแหล่งต้นน้ำของลำธารหลาย ๆ สาย สามารถเดินทางมาเที่ยวที่น้ำตกไทรโยคใหญ่ ที่อยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรีได้เลย ที่น้ำตกไทรโยคใหญ่เป็นน้ำตกที่อุดมไปด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ภูเขา และต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุหลายร้อยปี อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้ทำเยอะ ไม่ว่าจะเป็นล่องแพ, เล่นน้ำ, ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ หรือตั้งแคมป์ ที่นี่ก็ตอบโจทย์

4. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

เมื่อกล่าวถึงน้ำตกกาญที่สวยติดอันดับต้น ๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี จะพลาดไม่ได้เลยกับน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น น้ำตกที่มีความสูงถึง 7 ชั้นด้วยกัน โดยน้ำตกแม่ขมิ้นจะเป็นน้ำตกที่มีต้นน้ำไหลมาจากเทือกเขากะลา ซึ่งบริเวณโดยรอบของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จะเต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด หากมาที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น และอยากจะเห็นความสวยงามของธรรมชาติแบบเต็ม ๆ แนะนำชั้น 4 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกชั้นที่สวยที่สุด

5. น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

มาต่อกันที่ “น้ำตกจ๊อกกระดิ่น” น้ำตกชื่อดังที่อยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยน้ำตกแห่งนี้จะเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผา มีความสูงประมาณ 30 เมตร ด้านล่างจะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ และเป็นน้ำตกที่มีธรรมชาติล้อมรอบด้าน นอกจากความสวยของน้ำตกแล้ว ที่บริเวณใกล้กันยังมีสะพานสวย ๆ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิว ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ด้วย

6. น้ำตกเกริงกระเวีย

หากอยากเที่ยวน้ำตกกาญในช่วงหน้าร้อน น้ำตกอีกแห่งที่สวย และน่าลงเล่นแช่น้ำ ได้แก่ น้ำตกเกริงกระเวีย น้ำตกขนาดเล็กที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม แอ่งน้ำสำหรับลงเล่นน้ำของน้ำตกเกริงกระเวีย จะมีลักษณะกว้างและตื้น สามารถลงแช่ได้สบาย ๆ อีกทั้งยังเป็นน้ำตกที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่อย่างไรก็ตามหากคุณมาในช่วงหน้าฝน อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะกระแสน้ำของที่นี่จะค่อนข้างแรงกว่าฤดูกาลอื่น ๆ 

7. น้ำตกไดช่องถ่อง

น้ำตกไดช่องถ่อง เป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่กาญที่อยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม แต่น้ำตกแห่งนี้จะแตกต่างไปจากน้ำตกเกริงกระเวีย เพราะน้ำตกไดช่องถ่อง จะเป็นน้ำตกที่เป็นหินปูนขนาดกลาง และสายน้ำจะตกลงมาเป็นชั้น ๆ หากอยากมาเที่ยวที่น้ำตกไดช่องถ่อง ฤดูกาลที่แนะนำมากที่สุดที่เหมาะแก่การมาเที่ยว เราขอแนะนำเป็นช่วงฤดูฝน เพราะจะมีน้ำเยอะเหมาะแก่การมาเล่นน้ำโดยเฉพาะ

8. น้ำตกผาสวรรค์

น้ำตกกาญผาสวรรค์

“น้ำตกผาสวรรค์” เป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าเหมาะสำหรับสายแอดเวนเจอร์มากที่สุด เนื่องจากหากเทียบกับน้ำตกแห่งอื่น ๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี เส้นทางที่จะไปยังน้ำตกผาสวรรค์ จะเป็นเส้นทางที่เข้าไปยาก และมีความลำบากนิดหน่อย โดยลักษณะของน้ำตกแห่งนี้จะมีทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน หากอยากเที่ยวน้ำตกสวย ๆ ที่ธรรมชาติรอบ ๆ มีความอุดมสมบูรณ์สูง แนะนำเลยว่าต้องมาที่นี่

9. น้ำตกผาแตก

หากคุณอยากมาเที่ยวน้ำตกกาญชื่อดัง อย่าง น้ำตกผาแตก จะต้องมาเที่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนเท่านั้น เนื่องจากน้ำตกผาแตกจะมีเวลาเปิด-ปิดให้เที่ยวแค่เฉพาะเดือนดังกล่าว โดยน้ำตกแห่งนี้จะเป็นน้ำตกหินปูน ที่มีทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน มีแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นได้ และมีจุดปีนผาน้ำตกให้นักท่องเที่ยวเลือกผจญภัยได้ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากอยากมาผจญภัยที่น้ำตกแห่งนี้ จะต้องมีการติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อความปลอดภัยเสมอ

10. น้ำตกผาตาด

สำหรับสถานที่เที่ยวน้ำตกกาญแห่งสุดท้าย ที่เราอยากแนะนำสำหรับการมาพักผ่อนในช่วงหน้าร้อนนี้ ได้แก่ “น้ำตกผาตาด” ที่ตั้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ ความงดงามของน้ำตกผาตาด จะอยู่ที่สายน้ำจำนวนมากที่ไหลผ่านผาหินลงมาที่แอ่งน้ำด้านล่าง โดยน้ำตกแห่งนี้จะมี 3 ระดับชั้นด้วยกัน นอกจากน้ำตกผาตาดจะเหมาะสำหรับการมาเล่นน้ำ แช่น้ำเย็น ๆ คลายร้อนแล้ว น้ำตกผาตาดยังเป็นน้ำตกที่เหมาะสำหรับการมานั่งหรือนอนชิล ๆ ชมบรรยากาศธรรมชาติโดยรอบด้วย

สรุปบทความ

ริเวอร์แคว รีโซเทล รีสอร์ท

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 น้ำตกของจังหวัดกาญจนบุรีที่ ริเวอร์แคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort) นำเอามาฝากกันในวันนี้ เรากล้ารับประกันเลยว่าน้ำตกทั้งหมด ที่เราได้หยิบนำเอามาแนะนำ เป็นน้ำตกที่มีบรรยากาศดี น้ำใสสะอาด เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน 100% และหากคุณต้องการที่พัก ที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงความผ่อนคลาย รู้สึกถึงการพักผ่อนอย่างแท้จริง รีสอร์ท กาญจนบุรี ติดริมแม่น้ำ ริเวอร์แคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort) เป็นที่พักที่ดีที่สุด ที่เรากล้าการันตีความประทับใจ

ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ แบบไปเช้าเย็นกลับ ที่ไหนดี?

ถึงแม้การเดินทางไปเที่ยวกับเพื่อน, คนรัก และกับครอบครัว ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะเป็นการพักผ่อน เป็นการผ่อนคลาย และเป็นกิจกรรมที่ดีที่จะสานความสัมพันธ์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หลังจากการเที่ยวในแต่ละครั้ง อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิมได้ ยิ่งหากใครมีแพลนไปเที่ยวไกล ๆ การไปเที่ยวในวันหยุดที่มีเพียงแค่ 1-2 วัน อาจไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำรูปแบบการเที่ยวใกล้กรุงเทพที่น่าสนใจ หากอยากเที่ยวแบบไม่เหนื่อย บทความนี้ตอบโจทย์

รวม 7 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ สวยครบทุกจุด ได้คอนเทนต์สุดปังแน่นอน

หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวที่สามารถไปเช้า-เย็นกลับได้ หรือกำลังมองหาที่เที่ยวชิล ๆ ที่ไม่ดูดพลังงานมากจนเกินไป เราขอแนะนำที่เที่ยวใกล้กรุงเทพให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแก่คุณ ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการท่องเที่ยวสไตล์ไหน เราก็ได้รวบรวมสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพที่น่าสนใจมาให้กับคุณแล้ว

1. วัดมหาธาตุ พระนครศรีอยุธยา

ถ้าคุณชื่นชอบการเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวใกล้ กทม. ที่แรกที่เราอยากแนะนำให้ลองไปสักครั้ง ก็คือ “วัดมหาธาตุ” ที่อยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยวัดนี้เป็นวัดที่มีความสำคัญอีกหนึ่งแห่งในประเทศไทย เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชในสมัยนั้น ในการมาเที่ยวที่วัดมหาธาตุแห่งนี้ คุณจำได้กลิ่นอายของประวัติศาสตร์ชาติไทยแบบเต็ม ๆ

2. สะพานข้ามแม่น้ำแคว กาญจนบุรี

สะพานข้ามแม่น้ำแควกาญจนบุรี

อีกหนึ่งที่เที่ยวที่เป็นการเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด ได้แก่ “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” จังหวัดกาญจนบุรี โดยสะพานแห่งนี้เป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และสะพานแม่น้ำแควถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีเลยทีเดียว

3. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา

หากอยากสูดอากาศบริสุทธิ์เที่ยวใกล้กรุงเทพ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำที่ตอบโจทย์มากทีเดียว โดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระบุรี, จังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก หากมาเที่ยวที่นี่จะเป็นการเที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์ อย่างการเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ เล่นน้ำตก เป็นหลัก

4. วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี

การเที่ยวแบบเข้าวัดทำบุญ เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการไปเที่ยว 1 วัน หรือการไปเที่ยวเช้า-เย็นกลับอย่างมาก และวัดที่มีความยิ่งใหญ่อลังการ มีความสวยงาม อย่าง “วัดถ้ำเสือ” จังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะหากคุณเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ นอกจากจะอิ่มบุญแล้ว ที่วัดถ้ำเสือยังมีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ มีพระอุโบสถอัฏฐมุขทรงไทย และมีเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท ที่คุณสามารถชมความงามของสถาปัตยกรรมได้ 

5. อุทยานหินเขางู ราชบุรี

อุทยานหินเขางู จังหวัดราชบุรี เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพสำหรับสายชิล ที่ต้องการจะเดินเที่ยวแบบไม่รีบร้อน คนไม่เยอะ ไม่เบียดเสียด โดยสถานที่เที่ยวแห่งนี้จะเป็นสถานที่ ที่เหมาะอย่างมากสำหรับการมาถ่ายรูป หรือการเดินชมความงามของธรรมชาติ จุดไฮไลท์สำคัญคือสะพานเลียบแม่น้ำ ที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปเช็กอินเมื่อเดินทางมาถึง

6. เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี

เขื่อนศรีนครินทร์กาญจนบุรี

หากอยากเที่ยวแบบไม่ร้อน การเที่ยวเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เราอยากให้เก็บไปพิจารณา การมาเที่ยวที่เขื่อนศรีนครินทร์ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ล่องแพรอบ ๆ อ่างเก็บน้ำ, ตกปลา, พายเรือคายัค, รับประทานอาหารบนแพ หรือแม้แต่สวนสนุกทางน้ำ ก็มีให้เลือกเล่นเช่นเดียวกัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาที่เที่ยวที่มีกิจกรรมให้ทำตลอดทั้งวัน เขื่อนศรีนครินทร์น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพที่คุณจะต้องถูกใจแน่นอน

7. พระราชวังบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา

พระราชวังบางประอิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งแห่งในจังหวัดอยุธยา เนื่องจากเดิมทีสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในสมัยอยุธยา ไปจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ หากเดินทางมาเที่ยวที่พระราชวังบางประอิน ต้องไม่พลาดที่จะไปสักการะ “อนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม” และเดินชมสถานที่การตกแต่งสวย ๆ อลังการที่หาชมได้ยากจากที่อื่น

สรุปบทความ

River Kwai Resotel Resort

นอกจาก 7 สถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพที่เราได้นำเอามาฝากในข้างต้น มีอีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้ กทม. ที่เราอยากแนะนำให้กับผู้ที่ต้องการเที่ยวพักผ่อน ต้องการความสงบ หรือต้องการให้ธรรมชาติบำบัด อย่างการเลือกเข้าพักที่ริเวอร์แคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort) ที่พักบรรยากาศดี ที่หากคุณต้องการความสนุกเพลิดเพลิน ก็สามารถเอ็นจอยไปกับ กิจกรรมกาญจนบุรี ได้ อีกทั้งยังเป็นที่พักที่อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ของจังหวัดกาญจนบุรีอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวน้ำตกที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ, เที่ยวศึกษาประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2, เที่ยวศึกษาเส้นทางธรรมชาติ, ศึกษาความแตกต่างของวัฒนธรรมไทย-มอญ, เที่ยวเขื่อน ก็มีให้เลือกครบเช่นเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะชอบการเที่ยวสไตล์ไหน ริเวอร์แคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort) พร้อมให้บริการ

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 8

Lawa Cave is a stalactites and stalagmites cave, located in Wang Krachae Subdistrict, Sai Yok District, Kanchanaburi Province. The cave stands as the largest cave in the province, boasting a rich history and stunning natural formations. This 465-meter-long cavern, known as Kaeng Lawa Cave, is a must-visit destination for those exploring the area.

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 9

**History and Discovery**

Lawa Cave holds a significant place in the region’s history, as it is one of the first caves in Kanchanaburi to be discovered. Local residents were the first to uncover the cave’s secrets, finding ancient human skeletons within its depths. The discovery sparked interest from the Fine Arts Department, leading to excavations that unearthed ancient tools, pottery, and further evidence of human habitation. It is believed that the cave may have been inhabited by prehistoric humans, dating back over 3,000 years.

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 10

**Natural Formations and Wildlife**

Entering Lawa Cave is like stepping into another world, with water dripping from the ceiling and seeping from the floor, shaping the cave’s intricate formations over millennia. The constant drip of water, carrying traces of organic substances, gradually solidifies into the stalactites and stalagmites that adorn the cave’s interior. These formations, along with ancient pottery and decorations, offer a glimpse into the cave’s ancient past.

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 11

** 5 Chambers of Wonder**

As you venture deeper into the cave, you’ll encounter a series of chambers, each with its own unique features. The Hanuman Room, the first chamber, is located 45 meters from the cave’s entrance and sets the stage for the wonders that lie ahead. The Crocodile Room features a large stalactite resembling a crocodile, adding a touch of whimsy to the cave’s natural beauty. The music chamber delights visitors with its acoustics, producing echoing sounds that reverberate throughout the cave.

Continuing your exploration, you’ll come across the Bat Room, a tall and wide cave hall that was once home to over a thousand bats. While the bats have since moved on, the room retains its awe-inspiring atmosphere. The final chamber, the Hong Man Ban Thom room, is a sight to behold, with stalagmites and stalactites creating a majestic curtain-like effect. The room is adorned with sparkling crystals, giving it the appearance of a palace chamber. Here, you’ll also find a Buddha image enshrined, inviting visitors to pay their respects and reflect on the cave’s spiritual significance.

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 12

**Wildlife Within Lawa Cave**

Lawa Cave is home to a variety of fascinating creatures that have adapted to its unique environment. Among the inhabitants are the Cave Racer (Elaphe taeniura), a species of snake known for its slender body and swift movements. The cave also harbors Whip Scorpions, known for their distinctive whip-like tails and formidable appearance.

One of the cave’s most notable residents is the Hipposideros armiger, a species of bat that plays a crucial role in the cave’s ecosystem. Additionally, Camel Crickets are commonly found in the cave, adding to its diverse wildlife population. These creatures, along with many others, contribute to the rich biodiversity of Lawa Cave, making it a fascinating destination for wildlife enthusiasts.

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 13

**Getting There and Practical Tips**

Reaching Lawa Cave is an adventure in itself, with several options available. You can choose to travel by boat from Pak Saeng Pier, a scenic 45-minute journey, or by car from Kanchanaburi City (approximately 75 kilometers) or Sai Yok Noi (18 kilometers). After crossing the Ban Kaeng Raboet bridge, a short uphill walk leads you to the cave’s entrance.

When visiting Lawa Cave, it’s advisable to bring a torch to illuminate the cave’s interior, as some areas can be quite dark. While a guide is recommended for a richer experience, you can also explore the cave independently. Lawa Cave offers a captivating blend of natural beauty, history, and adventure, making it a must-visit destination for all travelers exploring Kanchanaburi’s hidden gems.

Please note that there is a steep staircase of 114 steps that must be climbed to reach the cave entrance.

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 14

Experience Riverside Bliss at River Kwai Resotel, the perfect accommodation near Lawa Cave

5 จุดเช็กอินกาญจนบุรี ลงเล่นน้ำได้

Located just a stone’s throw away from the enchanting Lawa Cave in Kanchanaburi, River Kwai Resotel offers a tranquil escape amidst the natural beauty of the region. Situated along the scenic Kwai Noi River, this riverside botanical resort provides the perfect blend of luxury and serenity, making it an ideal choice for travelers exploring the wonders of Lawa Cave.

Accommodation

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 15

River Kwai Resotel features a range of accommodation options, from cozy rooms to spacious bungalows, each designed to provide utmost comfort and relaxation. The resort’s rooms are tastefully furnished and offer breathtaking views of the river or lush gardens, allowing guests to immerse themselves in the beauty of their surroundings.

Facilities and Activities

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 16

Guests at River Kwai Resotel can indulge in a variety of activities, from relaxing by the river or exploring the resort’s botanical gardens to more adventurous pursuits such as kayaking or bamboo rafting along the river. The resort also offers guided tours to Lawa Cave and other nearby attractions, allowing guests to discover the rich history and natural wonders of the region.


Dining

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 17

The resort’s restaurant serves delectable Thai and international cuisine, made with fresh, locally sourced ingredients. Guests can enjoy their meals overlooking the river, creating a dining experience that is as memorable as it is delicious.

Explore the Enchanting Depths of Lawa Cave in Kanchanaburi 18

Relaxation and Wellness For those seeking relaxation and rejuvenation, River Kwai Resotel offers a range of wellness services, including traditional Thai massages and spa treatments. These services are designed to help guests unwind and recharge, leaving them feeling refreshed and revitalized.

สืบสานวัฒนธรรมกับ 5 ที่เที่ยวสงกรานต์ กาญจนบุรี

อีกหนึ่งเทศกาลความสนุก ที่ชาวไทยและชาวต่างชาติชื่นชอบ และให้ความสนใจอย่างมาก ก็คือ “เทศกาลสงกรานต์” ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ แน่นอนว่าในประเทศไทยของเรา มีหลายๆ สถานที่ ที่มีการจัดกิจกรรมจัดงานสงกรานต์ขึ้นมา และหนึ่งในจังหวัดที่มีการจัดงานสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากจังหวัดกาญจนบุรีของเรา สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ สามารถเดินทางมาเล่นสงกรานต์ กาญจนบุรี สนุกกับงาน สงกรานต์ กาญจนบุรี ที่จะจัดขึ้นทั่วจังหวัดได้เลย

ความน่าสนใจของประเพณีสงกรานต์กาญจนบุรี

ประเพณีสงกรานต์ที่กาญ

อย่างที่ทราบกันดีว่า “จังหวัดกาญจนบุรี” เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่เน้นการเที่ยวแนวธรรมชาติ และการท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ มีสถานที่สำคัญต่างๆ ของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ดังนั้นงาน สงกรานต์ กาญจนบุรี ที่จะจัดขึ้น จึงมีความแตกต่างไปจากงานสงกรานต์ของจังหวัดอื่นอย่างมาก คุณสามารถที่จะสนุกเพลิดเพลินไปกับการเล่นน้ำสงกรานต์ พร้อมๆ การสัมผัสบรรยากาศการเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ของจังหวัดกาญจนบุรีได้

รวมสถานที่จัดงานสงกรานต์ กาญจนบุรี

เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ต้องการจะเดินทางมาเล่นน้ำสงกรานต์ กาญจนบุรี ริเวอร์เเควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) จึงได้รวบรวม 5 สถานที่เล่นน้ำสงกรานต์ ในจังหวัดกาญจนบุรีที่น่าสนใจ นำเอามาฝากให้กับคุณดังนี้

1. สกายวอร์คสองแคว

หนึ่งในสถานที่จัดงาน สงกรานต์ กาญจนบุรี ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือสกายวอร์คสองแคว โดยที่นี่นอกจากจะมีการจัดสถานที่ให้เล่นน้ำสงกรานต์ บนถนนสองแควริมน้ำแล้ว ยังมีคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมาให้รับชมได้แบบฟรีๆ อีกด้วย ซึ่งความยิ่งใหญ่จัดเต็มจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี สำหรับงานสงกรานต์ปี 2567 หรือปี 2024 ที่จะถึงนี้ ต้องมารอลุ้นกันว่าจะมีนักร้อง ดีเจชื่อดัง คนไหนมาร่วมงานกันบ้าง

2. เทศบาลเมืองกาญจนบุรี

หากคุณต้องการที่จะเที่ยวสงกรานต์ ในบรรยากาศที่มีความอบอุ่น และสนุกไปกับวัฒนธรรมสงกรานต์ที่มีมาแต่โบราณ อย่างการทำบุญตักบาตร และพิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ รูปหล่อพระบูรพาจารย์ เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต สามารถมาร่วมงานสงกรานต์ที่มีการจัดขึ้นที่เทศบาลเมืองกาญจนบุรีได้เลย โดยในแต่ละปีจะมีธีมการแต่งตัวให้ร่วมสนุกเพิ่มเติมด้วย

3. วัดวังก์วิเวการาม

วัดวังก์วิเวการาม

สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวงานสงกรานต์ กาญจนบุรี ที่มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของชาวไทยและชาวมอญ สามารถมาร่วมความสนุกได้ที่วัดวังก์วิเวการาม โดยความน่าสนใจของงานสงกรานต์ที่วัดวังก์วิเวการามแห่งนี้ คุณจะได้พบกับประชาชนชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่มีการแต่งกายด้วยชุดประจำท้องถิ่น ที่นำเอาอาหารต่างๆ วางบนศีรษะ เพื่อนำเอาไปทำบุญกันภายในวัดอย่างหนาแน่น นอกจากนี้แล้วยังมีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และมีวัฒนธรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ของชาวมอญท้องถิ่น ที่คุณไม่สามารถเห็นจากที่อื่น ให้ตื่นตาตื่นใจอีกมาก

4. เมืองมัลลิกา 

ที่เมืองมัลลิการ.ศ.124 เป็นอีกหนึ่งสถานที่จัดงาน สงกรานต์ กาญจนบุรี ที่มีการนำเอาวัฒนธรรมประเพณีของไทยมาเผยแพร่ ซึ่งหากคุณมาเที่ยวสงกรานต์ที่เมืองมัลกา จะให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเข้าไปในประเพณีสงกรานต์ยุคเก่า ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญของสถานที่แห่งนี้ คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการสรงน้ำพระพุทธรูป ก่อเจดีย์ทราย รับชมขบวนกลองยาวที่มีนางรำแต่งกายสวยๆ และมีอาหารไทยดั้งเดิม ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคจริงๆ

5. วัดเบญพาด

และสถานที่จัดงานสงกรานต์สถานที่สุดท้ายของจังหวัดกาญจนบุรี ที่เราได้นำเอามาฝากกันในวันนี้ ก็คือ “วัดเพญพาด” โดยความน่าสนใจของงานสงกรานต์ที่นี่ คือประเพณีงานบุญเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปีของชาวบ้านเบญจพาด โดยประเพณีที่ว่านี้ เป็นประเพณีที่ชาวบ้านจะร่วมกันนำแห่ลำไม้ไผ่ ที่มีการตกแต่งด้วยผืนผ้าสีๆ และอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาพร้อมกองผ้าป่า เพื่อนำเอาไปทำบุญที่วัด เมื่อมีการทำบุญกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีกิจกรรมเล่นน้ำสนุกๆ ให้ผู้เข้าร่วมสนุกและเพลิดเพลินกันไปยาวๆ

สรุปบทความ

รีสอร์ทกาญจนบุรี

ก็จบลงไปแล้วกับ 5 ที่จัดงานสงกรานต์ กาญจนบุรี ที่มีความสนุกและความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป แต่นอกเหนือไปจาก 5 สถานที่จัดงาน ที่เราได้กล่าวถึงในวันนี้ จังหวัดกาญจนบุรียังมีสถานที่จัดงานสงกรานต์ดีๆ ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีการจัดงานหลายวันติดต่อกันด้วย สำหรับผู้ที่อยากจะมาเที่ยวสงกรานต์ที่จังหวัดกาญจนบุรี หากไม่อยากพลาดที่เที่ยวดีๆ ไม่อยากพลาดความสนุกของงานสงกรานต์ เราขอแนะนำ รีสอร์ทกาญจนบุรี อย่าง ริเวอร์เเควรีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotle Resort) ที่พักอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี หากเข้าพักที่นี่ นอกจากจะเดินทางไปเที่ยวงานสงกรานต์ได้ง่ายแล้ว ยังมั่นใจได้อีกว่าคุณจะได้รับความสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก และสามารถเข้าร่วมกิจกรรมความสนุกภายใน ที่มีให้บริการสำหรับผู้เข้าพักโดยเฉพาะ

จอง
ห้อง
ปิด
เช็กอิน
เช็กเอาต์
1
2
0
0-6 ปี
จองห้อง